พิธีพระราชทานเพลิงศพ พระครูสิริปัญญาธร (บุญรอด ยสวฑฺฒโก/โพธิ์คันธา)
วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2564 พิธีพระราชทานเพลิงศพ พระครูสิริปัญญาธร (บุญรอด ยสวฑฺฒโก/โพธิ์คันธา) อดีตเจ้าอาวาสวัดสว่างสำราญ / อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลโคกสำราญ เขต 1 ณ เมรุชั่วคราววัดสว่างสำราญ บ้านโคกสำราญ ตำบลโคกสำราญ อำเภอบ้านแฮด จังหวัดขอนแก่น
เวลา 16.00 น. ประกอบพิธีพระราชทานเพลิง
เวลา 21.00 น. ประชุมเพลิง (เผาจริง)
ประวัติพระครูสิริปัญญาธร บุญรอด ยะสะวัฒฑะโก
ประวัติพระครูสิริปัญญาธร บุญรอด ยะสะวัฒฑะโก สกุลเดิมโพธิ์คันธา อดีตเจ้าอาวาสวัดสว่างสำราญ อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลโคกสำราญ เขต 1 วัดสว่างสำราญ บ้านโคกสำราญ ตำบลโคกสำราญ อำเภอบ้านแฮดจังหวัดขอนแก่น ชาติภูมิ พระครูสิริปัญญาธรนามเดิมบุญรอด โพธิ์คันธา เกิดที่บ้านหนองไม้ตาย ตำบลโคกเครืออำเภอหนองกุงศรีจังหวัดกาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ 2469 ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น 14 ค่ำ เดือน 11 ปีขาล บิดาชื่อนายพรม โพธิ์คันธามารดาชื่อนางดี โพธิ์คันธา สกุลเดิม สอนคำหาญ มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน ดังนี้ 1 พ่อเคน โพธิ์คันธา 2 แม่ทองโพธิ์คันธา 3 หลวงปู่พระครูสิริปัญญาธร 4 พ่อหัสโพธิ์คันธา และมีพี่น้องร่วมบิดาอีก 2 คนคือ 1 แม่ทุมมา โพธิ์คันธา แม่เฮือน โพธิ์คันธา นามว่า”รอด”สาเหตุที่ได้รับ การขนานนามนี้ด้วยเหตุที่ว่าหลวงปู่เกิดมาแล้วเดินไม่ได้อยู่ถึง 3 ปีเพราะสุขภาพไม่สมบูรณ์นักโยมมารดาเลยถือเคล็ดด้วยการเอาไปวางไว้ที่ทางวัวผ่านปรากฏว่าวัวไม่เหยียบจึงได้รับการขนานนามว่า”รอด”มาจนถึงปัจจุบัน ปฐมวัยจนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เมื่ออายุประมาณ 15 ปีที่โรงเรียนโคกเครือ ตำบลโคกเครืออำเภอสหัสขันธ์ ปัจจุบันอยู่ในเขตอำเภอหนองกุงศรี จังหวัดกาฬสินธุ์ บรรพชาอุปสมบทพุทธศักราช 2492 ขณะมีอายุได้ 23 ปีได้บรรพชาเป็นสามเณรอยู่ที่วัดหนองไม้ตาย 2 เดือนต่อมาได้อุปสมบทที่วัดทุ่งสว่างกรุงศรี ตำบลสหัสขันธ์อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคมพ.ศ 2492 โดยมี พระครูสหัสคุณเจ้าคณะอำเภอสหัสขันธ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระสมุห์อ่อนวัดกลางละมัย เป็นพระกรรมวาจาจารย์ เจ้าอธิการสิงห์ วัดปทุมหนองบัวน้อย เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า ยะสะวัฒฑะโกมีผู้ร่วมบรรพชาอุปสมบทพร้อมกันในครั้งนั้น 2 รูป คือ พระภิกษุแต้ม มูลคำมี พระภิกษุบุญ พันธ์หงส์ การศึกษาทางธรรมพุทธศักราช 2492 จบนักธรรมชั้นตรี ปีพุทธศักราช 2493 จบนักธรรมชั้นโทพุทธศักราช 2494 จบนักธรรมชั้นเอก สมณศักดิ์พุทธศักราช 2517 เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะตำบลชั้นตรี ในราชทินนาม ที่พระครูสิริปัญญาธร พุทธศักราช 2526 เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะตำบลชั้นโท ในราชทินนาม ที่พระครูสิริปัญญาธร พุทธศักราช 2540 เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะตำบลชั้นเอก ในราชทินนามที่พระครูสิริปัญญาธร
ผลงานด้านต่างๆ
ด้านการปกครอง พุทธศักราช 2507 เป็นเจ้าอาวาสวัดสว่างสำราญตำบลโคกสำราญ อำเภอบ้านแฮด จังหวัดอนแก่น พุทธศักราช 2507 เป็นเจ้าคณะตำบลโคกสำราญ พุทธศักราช 2514 เป็นพระอุปัชฌาย์ ด้านเผยแพร่พระพุทธศาสนาพุทธศักราช 2509 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระธรรมทูตประจำอำเภอบ้านไผ่ พุทธศักราช 2528 เป็นประธาน อปต. (อบรมประชาชนประจำตำบล) ของกรมศาสนา ด้านสาธารณูปการ สร้างอุโบสถวัดหนองไม้ตายโดยใช้เป็นศาลาการเปรียญพร้อมด้วยสร้างอุโบสถวัดสว่างสำราญ ตั้งแต่ พ.ศ 2506 แล้วเสร็จในปีพ.ศ 2513 สร้างศาลาการเปรียญหลังใหญ่วัดสว่างสำราญ ปี พ.ศ 2522 แล้วเสร็จในปี 2541 สร้างเมรุวัดสว่างสำราญ ปี พ.ศ.2537 แล้วเสร็จปี พ.ศ. 2541 ขยายขอบเขตวัดสว่างสำราญจากเดิมมีที่ดิน 9 ไร่ 3 งาน 74 ตารางวาเป็น 15 ไร่ 3 งาน 57 ตารางวา สร้างกำแพงก่ออิฐถือปูนวัดสว่างสำราญตลอดจนถึงเสนาสนะต่าง ๆ มาก มายทั้งภายในและภายนอกวัดสว่างสำราญด้านสาธารณะสงเคราะห์สนับสนุนการสร้างโรงเรียนสถานีอนามัยโรงพยาบาลตามกำลังศรัทธาและตามความสามารถมาโดยตลอดสนับสนุนการจัดตั้งมูลนิธิโรงเรียนหนองไม้ตายสนับสนุนการศึกษาเด็กก่อนเกณฑ์อายุ 3 ขวบบ้านหนองเกี่ยว ตำบลโคกสำราญส่งเสริมการศึกษาของลูกหลานมากมายจนสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาธรรม 9 ประโยค ปวช,ปวสปริญญาตรี,โท,เอก,และต่างๆอีกมากมาย
การจำพรรษา
พรรษาที่ 1-2 ที่วัดบ้านหนองไม้ตาย,พรรษาที่ 3 ที่วัดบ้านหนองแสงตำบลหัวช้างอำเภอเมืองจังหวัดมหาสารคาม เพื่อศึกษาในทางธรรม พรรษาที่ 4 ที่วัดบ้านหนองไม้ตายพรรษาที่ 5 ที่วัดสว่างบ้านไผ่ ตำบลไผ่ใหญ่อำเภอม่วงสามสิบจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อศึกษานักธรรมและบาลี พรรษาที่ 6 ที่วัดบ้านหนองไม้ตายพรรษาที่ 7ที่วัดหนองขาม ตำบลในเมืองอำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น พรรษาที่ 8-9 ที่วัดทุ่งสว่างบ้านนาแคตำบลแก้งสนามนางอำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา เพื่อศึกษาและฝึกฝนเป็นพระธรรมกถึก พรรษาที่ 10-14 ที่วัดสวรรค์บ้านแฮดตำบลบ้านแฮด อำเภอบ้านแฮดจังหวัดขอนแก่น พรรษาที่ 15-18 ที่วัดสว่างสำราญ ตำบลโคกสำราญอำเภอบ้านแฮดจังหวัดขอนแก่น พรรษาที่ 19 ที่วัดนันทพิมพาราม อำเภอบ้านไผ่พรรษาที่ 20-21 ที่วัดสว่างสำราญ ตำบลโคกสำราญ อำเภอบ้านแฮดจังหวัดขอนแก่น พรรษาที่ 22 ที่วัดจุมพลบ้านก้านเหลือง ตำบลก้านเหลือง อำเภอแวงน้อยจังหวัดขอนแก่น เพื่อศึกษาวิชาอาคมกับพระเดชพระคุณพระครูวรพจน์วิธาน (พันธ์ ติสโส) อำเภอแวงน้อย พรรษาที่ 23 ที่วัดป่าดอนเปือยซึ่งถิ่นนั้นถือว่าภูมิที่ร้ายกาจเคยมีพระไปจำพรรษาในที่นั่นได้หนีออกไปกลางพรรษา เมื่อหลวงปู่ไปอยู่กับหลวงพ่ออำเภอบ้านไผ่ก็สงบเรียบร้อยมาจนบัดนี้ พรรษาที่ 24 ที่วัดป่าสันติธรรม พร้อมกับหลวงพ่ออำเภอบ้านไผ่พรรษาที่ 25-27 ที่วัดสว่างสำราญ ตำบลโคกสำราญ อำเภอบ้านแฮดจังหวัดขอนแก่น พรรษาที่ 28 ที่วัดป่าโพธิ์ชัยบ้านดง ตำบลโคกสำราญ อำเภอบ้านแฮดจังหวัดขอนแก่น พรรษาที่ 29 -71 ที่วัดสว่างสำราญ ตำบลโคกสำราญอำเภอบ้านแฮดจังหวัดขอนแก่น
ปัจฉิมวัย
พระเดชพระคุณหลวงปู่ได้ดำรงรักษาสืบทอดพระศาสนามาโดยตลอดด้วยดีจนหลวงปู่มีอายุได้ 94 ปี หลวงปู่เข้าสู่วัยชราภาพ ทำให้มีอาพาธต่างๆมาเบียดเบียนแต่หลวงปู่ก็สู้จนถึงเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2563 หลวงปู่ได้เข้ารับการรักษาอาการอาพาธที่โรงพยาบาลสิรินธรเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2563 ทางคณะแพทย์ได้ให้หลวงปู่ออกมารักษาอาการที่วัดสว่างสำราญ จนเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2563 เวลา 01:30 น หลวงปู่ได้มรณภาพลงในอาการสงบด้วยโรคชรา ยังคงความเศร้าโศกแก่ศิษยานุศิษย์เป็นอันมาก